การขอคืนเงินภาษีรถ หากมีการชำระภาษีซ้ำซ้อนในปีเดียวกัน ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากการชำระหลายช่องทาง สามารถดำเนินการขอคืนเงินค่าภาษีรถได้ ดังนี้
เงื่อนไขการขอคืนเงินภาษีรถ
- มีการชำระเงินค่าภาษีถูกต้อง ผ่านระบบชำระภาษีรถยนต์ประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต
- มีการชำระภาษีซ้ำซ้อนในปีภาษีเดียวกัน ระหว่าง ระบบชำระภาษีรถยนต์ประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ตกับระบบชำระภาษีรถยนต์ประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต หรือระบบชำระภาษีรถยนต์ประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต กับระบบชำระภาษีรถยนต์ผ่านสำนักงานขนส่ง หรือระบบชำระภาษีรถยนต์ประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต กับช่องทางชำระภาษีอื่นๆ
- ตรวจสอบการชำระภาษีซ้ำที่หน้าเว็บไซต์ ที่เมนู “ตรวจสอบผลการชำระภาษี/เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน” ที่สถานะการดำเนินการ ‘พบความผิดพลาดติดต่อกรม’
เอกสาร/หลักฐานประกอบ
- พิมพ์เอกสารการยื่นชำระภาษีรถยนต์ประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต ที่เมนู “ตรวจสอบผลการชำระภาษี/เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน” ที่สถานะการดำเนินการ ‘พบความผิดพลาดติดต่อกรม’ จากนั้นสามารถพิมพ์เอกสารโดยคลิกที่ ปุ่มเครื่องหมายพิมพ์
- ใบเสร็จรับเงินค่าภาษีจากกรมการขนส่งทางบกฉบับจริงเท่านั้น
- สำเนาสมุดคู่มือรถ หน้าที่ระบุผู้ถือกรรมสิทธิ์รถคนปัจจุบัน
- สำเนาบัตรประชาชนผู้ถือกรรมสิทธิ์รถ
- ใบมอบอำนาจ (กรณีผู้ถือกรรมสิทธิ์รถไม่ได้ดำเนินการเอง) และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจ
- กรณีรถติดไฟแนนซ์ ต้องมีเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้
- สำเนาสัญญาเช่าชื้อ
- สำเนาบัตรประชาชนผู้เช่าซื้อ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการที่มีอำนาจลงนาม
- สำเนาใบรับรองบริษัทไฟแนนซ์
- ใบมอบอำนาจจากบริษัทไฟแนนซ์
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร สำหรับโอนเงินภาษีคืน
สถานที่ขอคืนเงินภาษี
- สอบถามเพื่อยืนยันการได้รับเงินชำระภาษีซ้ำซ้อน ที่เบอร์ 02-271-8888 ต่อ 9313
- เมื่อได้รับการยืนยันแล้วนำเอกสารหลักฐานยื่นที่ กรมการขนส่งทางบก จตุจักร อาคาร 2 ชั้น 2 งานรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน หรืองานรถจักรยานยนต์
- เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและเอกสารหลักฐานต่างๆ พร้อมกับแจ้งกำหนดการคืนเงินให้ทราบต่อไป
** ทั้งนี้ ขั้นตอนการขอคืนเงินต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบ ซึ่งอาจจะทำให้ไม่ได้รับความสะดวกรวดเร็วในการคืนเงินค่าภาษี ดังนั้นให้ตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนการชำระเงินทุกครั้ง
ที่มา กรมการขนส่งทางบก (dlt.go.th)