ตอบทุกประเด็น ! รถที่ต้องติดตั้ง GPS ตามกฎหมาย มีรถอะไรบ้าง ?

รถที่ต้องติดตั้ง GPS ตามกฎหมาย มีรถอะไรบ้าง ?
รถที่ต้องติดตั้ง GPS ตามกฎหมาย มีรถอะไรบ้าง ?

จีพีเอสรถ (Global Positioning System, GPS) หรือเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ เป็นระบบที่ทำการระบุพิกัดของรถ โดยจะบันทึกและส่งข้อมูลไปยังเครือข่ายที่ติดตั้งไว้ ทำให้ทราบรายละเอียดการเดินทางของรถ ซึ่งมีประโยชน์ในด้านความปลอดภัย และยังสามารถนำข้อมูลมาใช้พัฒนาระบบขนส่งได้อีกมากมาย ทางกรมการขนส่งทางบกเล็งเห็นประโยชน์ในส่วนนี้ จึงได้ประกาศให้รถบางประเภท เป็นรถที่ต้องติดตั้ง GPS ตามกฎหมาย โดยต้องเชื่อมต่อข้อมูลเข้ากับส่วนกลางด้วย

1. ทำความรู้จัก ประกาศเกี่ยวกับรถที่ต้องติดตั้ง GPS ตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2559 : จากประกาศกรมการขนส่งทางบก GPS เป็นอุปกรณ์ที่ถูกกำหนดให้ติดตั้งในรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท, รถตู้, รถลากจูง และรถบรรทุกขนาดใหญ่ตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป ตามโครงการ “ มั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS ” เพื่อเป็นการยกระดับความปลอดภัยของระบบขนส่งสาธารณะ ทำให้กรมการขนส่งทางบกและผู้ประกอบการ สามารถติดตามพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งน่าจะช่วยป้องกันและลดอุบัติเหตุลงได้ โดยนอกจากจะต้องติดตั้งเครื่อง GPS Tracking แล้ว ยังมีเครื่องบ่งชี้พนักงานขับรถ หรือเครื่องอ่านบัตรแถบแม่เหล็ก (Magnetic Stripe Card Reader) สำหรับรูดใบขับขี่ ที่ต้องติดตั้งพร้อมกันด้วย

ประกาศเกี่ยวกับรถที่ต้องติดตั้ง GPS ตามกฎหมาย
การประกาศรถที่ต้องติดตั้ง GPS ตามกฎหมาย

อ้างจากประกาศ GPS กรมการขนส่งทางบก เรื่องกำหนดประเภทและลักษณะของรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร และรถที่ใช้ในการขนส่งสัตว์และสิ่งของ พ.ศ.2558 สำหรับกรณีที่รถที่กำหนดไว้ ไม่ดำเนินการตามประกาศ หากเป็นรถใหม่จะไม่สามารถจดทะเบียนได้ ส่วนรถเก่าจะไม่สามารถต่อทะเบียนได้ จนกว่าจะดำเนินการติดตั้งให้เรียบร้อย

2. รถที่ต้องติดตั้ง GPS ตามกฎหมาย มีประเภทไหนบ้าง ?

สำหรับรถโดยสารสาธารณะ รถลากจูง และรถบรรทุกทั้งเก่าและใหม่ ต้องดำเนินการติดตั้งเครื่อง GPS Tracker และเครื่องรูดบัตรแถบแม่เหล็กให้แล้วเสร็จ ตั้งแต่สิ้นปี 2562 ที่ผ่านมา โดยยกเว้นรถบางประเภท ได้แก่ รถสองแถว, รถเมล์เล็กในซอย, รถโดยสารที่วิ่งทางหลัก – ทางย่อยเข้าหมู่บ้าน (รถหมวด 4), รถโดยสารประจำทาง ซึ่งระยะทางส่วนใหญ่วิ่งอยู่ภายในเขตภูมิภาค (รถหมวด 1), รถตู้ส่วนตัวที่ไม่ได้รับส่งผู้โดยสาร

2.1 รถโดยสารสาธารณะ

รถที่ต้องติดตั้ง GPS ตามกฎหมาย มีรถอะไรบ้าง?
รถที่ต้องติดตั้ง GPS ตามกฎหมาย

ตัวอย่างเช่น

  • รถแท็กซี่ (ป้ายเหลือง) ต้องติด GPS กรมการขนส่งทางบกตามโครงการ TAXI OK ให้เรียบร้อย ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2560
  • รถตู้ร่วม บขส.
  • รถตู้โดยสารประจำทาง
  • รถโดยสารประจำทางสองชั้น
  • รถโดยสารไม่ประจำทาง

2.2 รถบรรทุก

รถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป ทั้งรถบรรทุกสาธารณะและรถบรรทุกส่วนบุคคล รวมถึงรถลากจูง เป็นรถที่ต้องติดตั้ง GPS ตามกฎหมาย ตัวอย่างเช่น

  • รถตู้บรรทุก
  • รถกระบะบรรทุก
  • รถบรรทุกของเหลว
  • รถบรรทุกยกเทได้ (รถดั๊มพ์)
  • รถบรรทุก พร้อมเฮี๊ยบ
  • รถบรรทุกติดตั้งเครื่องฉีดปูน
  • รถบรรทุกติดตั้งเครื่องฮุกลิฟต์
  • รถบรรทุกวัตถุอันตราย
  • รถเครน

3. ข้อมูลที่เชื่อมต่อ GPS กรมการขนส่งทางบก

3.1 ข้อมูลของพนักงานขับรถ

จากประกาศกรมการขนส่งทางบก GPS ที่ติดตั้งต้องมีระบบบ่งชี้ผู้ขับรถ (เครื่องรูดใบขับขี่) ที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลของผู้ขับขี่ จากแถบแม่เหล็กบนบัตร หรือเชื่อมโยงเข้ากับฐานข้อมูลอื่นได้ ซึ่งหากไม่รูดบัตรแสดงตน ระบบจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนต่อเนื่อง จนกว่าจะแสดงตนหรือจนกว่ารถจะหยุด

3.2 จำนวนชั่วโมงการขับรถ

เครื่อง GPS Tracker ของรถบรรทุก และรถโดยสาร จะบันทึกข้อมูลและรายงานความเคลื่อนไหวตลอดเวลา ซึ่งถ้าขับรถต่อเนื่องเกิน 4 ชั่วโมง โดยไม่ได้หยุดพักอย่างน้อย 30 นาทีก่อนเริ่มขับต่อ หรือระยะเวลาขับรถรวมเกิน 8 ชั่วโมง ในรอบ 24 ชั่วโมง กรมขนส่งจะได้รับรายงานทันที อาจถูกสั่งพักใบอนุญาตขับขี่ได้สูงสุดถึง 180 วัน และปรับอีกไม่เกิน 5,000 บาท

3.3 ความเร็วในการขับขี่

รถที่ต้องติดตั้ง GPS ตามกฎหมาย จะถูกมอนิเตอร์ความเร็วแบบเรียลไทม์ ทำให้ทั้งกรมการขนส่งทางบกและผู้ประกอบการ สามารถตรวจสอบข้อมูลความเร็วได้อย่างแม่นยำ ซึ่งหากผู้ขับขี่ขับรถเร็วเกินกำหนด ต่อเนื่องเกิน 2 นาที เช่น รถโดยสารขับเร็วเกิน 80 กม./ชม. หรือรถลากจูงขับเร็วเกิน 60 กม./ชม. จะถือเป็นความผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท

3.4 พฤติกรรมการขับรถ

การติดตั้ง GPS Tracker จะช่วยตรวจสอบพฤติกรรมการขับรถของผู้ขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น มีมารยาทในการขับขี่หรือไม่, เปลี่ยนช่องทางกะทันหันไหม, ชอบแซงในที่ห้ามแซงหรือไม่, จอดรถในตำแหน่งที่ปลอดภัยไหม หรือมีพฤติกรรมใดที่สุ่มเสี่ยงต่ออุบัติเหตุหรือไม่

3.5เส้นทางที่ใช้

กรมการขนส่งทางบกจะสามารถตรวจสอบเส้นทาง ที่รถบรรทุกและรถโดยสารทั้งหมดใช้ได้ตามจริง ทำให้สามารถวางแผนควบคุมการจราจรได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวหรือช่วงเทศกาล ส่วนผู้ประกอบการก็สามารถนำข้อมูล มาวางแผนปรับเส้นทาง เพื่อช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย

3.6 พิกัดตำแหน่งของรถ

จากประกาศกรมการขนส่งทางบก GPS Tracker ที่ติดตั้งนั้น จะต้องสามารถส่งตำแหน่งในรูปแบบพิกัดและสถานที่ได้อย่างแม่นยำ ระยะคลาดเคลื่อนไม่เกิน 20 เมตร โดยต้องส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ หรือไม่น้อยกว่า 1 ครั้งใน 5 นาที ซึ่งต้องสามารถบันทึกข้อมูลได้ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมงด้วย

4. สรุป

GPS สำหรับรถที่ติดตั้งตามข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบก
GPS สำหรับรถที่ติดตั้งตามข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบก

ตามประกาศของกรมการขนส่งทางบก รถที่ต้องติดตั้ง GPS ตามกฎหมาย ได้แก่ รถโดยสารสาธารณะทุกประเภท เช่น รถแท็กซี่, รถตู้, รถโดยสารสองชั้น รวมถึงรถลากจูงและรถบรรทุกตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป โดยต้องติดตั้งพร้อมเครื่องอ่านบัตรแถบแม่เหล็กด้วย ซึ่งที่ GPSDD เรามีเซต GPS Tracker ที่กรมการขนส่งรับรองแล้ว ใช้งานได้อย่างแม่นยำ ถูกต้องตามกฎหมายแน่นอน


เช็คลิสต์ตำแหน่ง! ติด gps รถยนต์ตรงไหน สะดวก และปลอดภัยมากที่สุด!

เช็คลิสต์ตำแหน่ง! ติด gps รถยนต์ตรงไหน สะดวก และปลอดภัยมากที่สุด!

เราควร ติด gps รถยนต์ตรงไหน ถึงจะเหมาะสมที่สุด? ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดในการติดตั้ง GPS พร้อมทั้งข้อควรคำนึงต่าง ๆ

อ่านต่อ
7 เหตุผลที่รถของคุณต้องมี GPS ติดรถแบบซ่อน ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

7 เหตุผลที่รถของคุณต้องมี GPS ติดรถแบบซ่อน ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

GPS ติดรถแบบซ่อน ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดีเลย เพราะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับรถของคุณจากการถูกโจรกรรมได้เป็นอย่างดี

อ่านต่อ
Message us