แชร์เคล็ดลับ วิธีเลือกจุดติด gps รถยนต์ ตรงไหนดี? พร้อมวิธีการติดตั้งแบบละเอียด

1.1 ติดตั้ง GPS Tracker บริเวณใต้พรมหรือใต้เบาะรถยนต์

หากถามว่าติด gps รถยนต์ ตรงไหนดี ใต้พรมหรือใต้เบาะรถยนต์ เป็นจุดแรกๆ ที่หลายคนนึกถึง เพราะสามารถซ่อนเครื่องติดตามนี้ได้อย่างมิดชิด เชื่อมต่อระบบไฟได้ง่าย สะดวกต่อการตรวจสอบในกรณีที่เกิดปัญหาในการใช้งานขึ้น โดยควรทำการซ่อนให้มิดชิดมากที่สุดและเลี่ยงจุดที่อาจจะโดนเหยียบจนเสียหาย

1.2 ติดตั้ง GPS Tracker บริเวณแผงหน้าปัดรถ

บริเวณแผงหน้าปัดรถยนต์ถือได้ว่าเป็นอีกจุดที่เหมาะสมในการติดตั้ง GPS Tracker เนื่องจากเป็นจุดที่ใช้ติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ของรถยนต์ ช่วยให้เราสามารถซ่อน GPS ได้ง่าย ใกล้กับแหล่งจ่ายไฟ รวมถึงยากต่อการสังเกตเห็นหรือถอดออกของผู้ไม่ประสงค์ดี

1.3 ติดตั้ง GPS Tracker บริเวณช่องเก็บของหน้ารถ

อีกบริเวณที่นิยมติดจีพีเอสก็คือช่องเก็บของหน้ารถ ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ลับตา มองเห็นได้ยาก สามารถล็อกช่องเก็บของได้เพื่อให้ยากต่อการเข้าถึง ซึ่งจุดนี้ส่วนใหญ่มักจะเป็นเจ้าของรถหรือผู้ที่มีกุญแจเท่านั้นที่สามารถเปิดได้

1.4 ติดตั้ง GPS Tracker บริเวณกันชนหน้า

แม้จะไม่ใช่จุดที่นิยมติดตั้งอุปกรณ์ติดตามรถยนต์มากนักเนื่องจากเป็นจุดที่เสี่ยงต่อการชำรุด แต่ก็เป็นอีกทางเลือกที่สามารถติด GPS Tracker ได้ อย่างไรก็ตามแนะนำว่าหากจะติดจีพีเอสในบริเวณนี้ควรให้ช่วงที่มีความชำนาญเป็นผู้ติดตั้งให้ เพราะต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทางหลายอย่างด้วยกัน

1.5 ติดตั้ง GPS Tracker บริเวณระบบช่วงล่างของรถ

จุดสุดท้ายที่เราสามารถ GPS ได้ก็คือบริเวณระบบช่วงล่างของรถ ข้อดีก็คือเป็นจุดที่ยากต่อการเข้าถึงหรือมองเห็น รวมถึงหากจะถอดออกก็ค่อนข้างเสียเวลาและทำให้เป็นที่สังเกตของคนที่ผ่านไปผ่านมา แต่ก็มีข้อที่ควรต้องพิจารณาก็คือบริเวณดังกล่าวหากเลือกจุดไม่ดีอาจทำให้มีการอับสัญญาณได้ รวมถึงเสี่ยงต่อการชำรุดเสียหายพอสมควร และต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน

1. เลือก GPS Tracker รุ่นที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณของเรา โดย GPS Tracker ในปัจจุบันมีหลายรุ่นหลายราคา ตามฟังก์ชันการทำงาน อาทิ สามารถค้นหาและติดตามได้แบบเรียลไทม์, ตัดระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ได้, สามารถดักฟังเสียงได้, สั่งดับเครื่องยนต์ได้, เตือนเมื่อมีการถอดชุดติดตามได้ และฟังก์ชันอื่นๆ อีกมากมาย
2. เลือกเครือข่ายที่ต้องการใช้บริการ โดยเราสามารถพิจารณาได้จากความแรงของสัญญาณและค่าใช้จ่ายในการเชื่อมต่อแต่ละรอบบิลว่าตรงกับงบประมาณที่เรามีหรือไม่ ซึ่งแต่ละเครือข่ายก็จะมีโปรโมชันและแพ็กเกจการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป
3. ทำการตรวจสอบอุปกรณ์ที่มากับชุดติดตั้งว่าครบตามที่ระบุเอาไว้ในคู่มือของ GPS Tracker รุ่นนั้นหรือไม่ จากนั้นทำการใส่ซิมการ์ดที่เราเลือก พร้อมตั้งค่าตามคำแนะนำทั้งในส่วนของตัวเครื่องและการตั้งค่าเครือข่าย หลังจากนั้นให้ตรวจสอบไฟสถานการณ์ทำงานว่าติดครบทุกดวงหรือไม่ ซึ่งหลักๆ จะมี 3 ดวงคือ ไฟแสดงสถานะของแบตเตอรี่กรณีมีแบตเตอรี่ในตัว  ไฟแสดงสถานการณ์เชื่อมต่อ GPS และไฟแสดงสถานะการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
4.  เลือกจุดติดตั้ง GPS Tracker ว่าเราจะซ่อนตัวเครื่องเอาไว้ตรงไหน จากนั้นพิจารณาการเชื่อมต่อระบบไฟของตัวเครื่องกับแหล่งจ่ายไฟของรถยนต์ โดยสามารถดูรายละเอียดของสายไฟที่จะใช้เชื่อมต่อได้จากคู่มือการติดตั้ง เมื่อเชื่อมต่อแล้วให้ตรวจสอบสัญญาณไฟต่างๆ ว่าติดครบทุกดวงหรือไม่ ก่อนทำการซ่อนอุปกรณ์อย่างมิดชิดและเก็บงาน
5. ทดสอบระบบการติดตามจากแอปพลิเคชันของ GPS Tracker ว่าสามารถระบุตำแหน่งของเครื่องติดตามและรถยนต์ได้ตามต้องการหรือไม่ ฟังก์ชันต่างๆ ทำงานได้ครบถ้วนหรือเปล่า หากพบปัญหาในการติดตั้งให้สอบถามจากผู้ขายเพื่อขอคำแนะนำ